"เปิดห้องทดลองของนางซิน ในโลกของเทพนิยาย เราทุกคนต่างฝันอยากเป็นเจ้าหญิง เฝ้ารอเจ้าชายขี่ม้าขาวสักองค์มารับเราเข้าพระราชวังไปด้วยกัน เต้นรำกัน แต่งงานกัน และครองราชบัลลังค์กันอย่างมีความสุขชั่วกัลปาวสาน เราต่างเติบโตมากับนิทานเจ้าชายเจ้าหญิง การ์ตูนคลาสสิคของวอล์ท ดิสนีย์ หลังการ์ตูนจบลง เราก็เลือกจับจองกันว่าฉันอยากเป็นใคร ฉันเป็นออโรร่า ฉันเป็นซินเดอเรลล่า ฉันเป็นสโนวไวท์ ฉันเป็นเบลล์ ฉันเป็นเอเรียล บลา บลา บลา... แต่เราไม่เคยถามตัวเองกันเลยว่า แล้วใครล่ะจะมาเป็นเจ้าชาย ? . . . . . . . . . . หลังอุปโลกน์ตัวเองเสร็จสรรพ เราก็ตื่นขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง หยิบพาเลตต์สุดรัก Urban Decay ขึ้นมาสร้างเบ้าตา คว้าลิปสติกสีเจิดของ Wet N’ Wild ขึ้นมาระบายริมฝีปากให้น่ามอง คว้ากระเป๋าสะพายใบที่เป็น Must Have Item ของสาวๆ ทั่วโลกขึ้นมาประดับไหล่ พลางส่งจูบให้ตัวเองในกระจกว่า “ฉันนี่แหละที่งามเลิศในปฐพี” ก่อนออกจากบ้านไปด้วยความหวังที่ว่า ฉันอาจได้พบกับเจ้าชายที่รอมานาน (สักที) เราเชื่อว่าเราคือเจ้าหญิง แต่เพราะเราไม่เคยถามตัวเองเลยว่า เราต้องการเจ้าชายแบบไหน เราแค่มีมโนภาพถึงคำว่า “เจ้าชาย” แล้วก็ตั้งเอาไว้ตรงนั้น เราไม่เคยถามตัวเองจริงจังว่า เจ้าชายที่จะทำให้เรามีความสุขแบบชั่วกัลปาวสานนั้น จริงๆ แล้วเป็นคนยังไง มีคุณสมบัติอะไรบ้าง เมื่อไม่เคยตั้งคำถาม เวลามีใครสักคนเดินเข้ามาแล้วชูป้ายว่า “ผมคือเจ้าชาย” เราก็เลยเชื่อเขาไปตามนั้น ปักใจไปอย่างนั้น จนกระทั่งเจ้าชายสลัดผ้าคลุมออก เราจึงพบว่าเขาเป็นแค่โจรป่าที่เก็บเสื้อคลุมของเจ้าชายได้ เจ้าชายตัวจริงถูกฆ่าตายไปแล้ว หรือบางที, เจ้าชายในโลกนี้อาจไม่มีอยู่จริงมานานแล้ว ฟังดูน่าเศร้า, แต่นั่นอาจเป็นความจริงสุดท้ายที่เหลืออยู่ โลกนี้อาจไม่มีเจ้าชายหลงเหลืออยู่แล้ว เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้คนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เจ้าชายด้วย เพื่อที่จะค้นพบว่า เขาสามารถเป็นเจ้าชายที่เราตามหาได้เช่นกัน หากเราอยากพบกับรองเท้าแก้วข้างที่หายไป เราต้องทุ่มเทที่จะทำความรู้จักกับความรักทุกรูปแบบให้ได้เสียก่อน หมุนรอบตัวเอง หมุนรอบตัวเขา หมุนรอบความรักและความร้ายให้ครบด้าน เพื่อที่จะได้มั่นใจว่า ความรักที่เราต้องการนั้นเป็นยังไง และคนแบบไหนที่เป็นเจ้าชายในแบบที่เราตามหา จงอย่ากลัวที่จะทำความรู้จักกับความรัก อย่าหวาดกลัวการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ความรักซับซ้อน... แต่จะคลี่คลายในที่สุดหากเธอเข้าใจในธรรมชาติของมัน และคนที่เข้าใจในธรรมชาติของมันเท่านั้น ที่จะเป็นผู้รอดตายจากเขาวงกตที่เต็มไปด้วยกุหลาบสีแดงและหนามแหลมนั่น การทดลองซ้ำๆ ในเรื่องของความรักจะทำให้เราค่อยๆ พบโลกใหม่ คล้ายกับได้เปิดประตูทีละบาน ทีละบาน จนในที่สุด ประตูบานสุดท้ายก็จะมีเจ้าชายในแบบที่เราตามหายืนถือรองเท้าแก้วข้างที่เราขว้างหายไปในจักรวาลเมื่อนานมาแล้ว...รอเราอยู่ ดังนั้น สิ่งที่เราควรจะทำก็คือ อย่ามองคนแค่เสื้อคลุม มงกุฎ หรือม้าขาว ของเขา จงให้โอกาสกับชายหนุ่มท่าทางมอซอที่เดินตุปัดตุเป๋ออกมาจากป่านั่นด้วย เพราะบางทีเขาอาจเป็นเจ้าชายองค์สุดท้ายที่รอดพ้นจากเงื้อมือของมังกรร้าย หรือโจรป่าคนนั้น และ...อย่าลืมว่า รองเท้าแก้วข้างที่พอดิบพอดีกับเท้าของเรานั้นมันย่อมมีอยู่ข้างเดียว ความรักก็เหมือนกัน เจ้าชายก็เช่นกัน... หญิงสาวที่มีความสุขที่สุดในโลกจึงไม่น่าจะใช่ คนที่ได้พบกับเจ้าชายในฝัน คนที่ได้พบกับผู้ชายธรรมดาๆ ในชีวิตจริง แต่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงได้ต่างหากเล่า ที่น่าอิจฉา และฉันกำลังจะพาคุณไปพบกับความรู้สึกแบบนั้นทีละน้อย...ทีละน้อย.... "